Thursday, 4 December 2008

Doi Mon Chong ดอยม่อนจอง


ใครเคยไปดอยม่อนจองบ้าง ??? เชื่อว่าหลายคนคงเคยไป

หลายคนเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่มีโอกาสไป และอีกหลายคน เพิ่งจะรู้จักชื่อ
สเน่ ห์ของ ดอยม่อนจอง เกิดจาก กุหลาบพันปี และ กวางผา และเจ้ากวางผานี่แหละที่ทำให้ดอยม่อนจองเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ข้างล่างนี่เป็นข้อมูลของดอยม่อนจอง

กวางผาดอยม่อนจอง
ปราดเปรียวว่องไวเกินกว่าศัตรูจะจู่โจมเข้าหา คือ ม้าเทวดา ซึ่งอาศัยอยู่บนภูเขาสูง
ดอยม่อนจอง ดอยสูงที่แนวหน้าผาประดุจปราการธรรมชาติ ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย
และ หลบภัยเป็นอย่างดี ใครจะรู้ว่า ม้าเทวดา ที่แท้ก็คือ กวางผา สัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย หนึ่งในสายพันธุ์หิมาลัยที่แพร่กระจายมาถึงบ้านเรา

ดอยม่อนจอง
ดอย สูงแห่งลุ่มน้ำปิงที่มีสัณฐานแปลกประหลาด กว่าดอยลูกไหนๆ ในประเทศไทย มีพื้นที่ ด้านตะวันออกเป็นป่าดงดิบทึบ ในขณะที่ด้านตะวันตกเป็นแนวปราการของหน้าผา ยาวเหยียดติดต่อกันหลายกิโลเมตร ที่นี่จึงเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย และหลบภัยอย่างดีของกวางผา สัตว์ป่าสงวน 1 ใน 6 ชนิด ของประเทศไทย นอกจากนี้ตามไหล่เขาสูงชันยังเป็นแหล่งที่พบ เต่าร้างยักษ์ พืชตระกูลปาล์มที่หายาก ส่วนในช่วงฤดูหนาวบนยอดสูงสุดที่ระดับน้ำทะเลราว 1,200 เมตร จะเต็มไปด้วย กุหลาบพันปี ที่ออกดอกสะพรั่งเป็นสีแดงสดสวย

วันเวลาที่แนะนำ
ฤดู หนาวจากเดือนตุลาคมเป็นต้นไป คือวันเวลาที่ดีที่สุดที่จะขึ้นไปเที่ยวชมกวางผาดอยม่อนจอง และสามารถเที่ยวได้จนถึงช่วงต้นฤดูฝน ราวเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงหญ้าอ่อนบนสันดอยระบัด การเดินทางควรไปเป็นหมู่คณะเล็กๆ เพื่อจะได้ไม่รบกวนธรรมชาติจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัย และเข้าใจในธรรมชาติโดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนเสมอ

การเดินทางสู่ยอดดอย
นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นยอดดอยม่อนจองจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นไปทุกครั้ง
เส้น ทางเดินเท้าสู่ยอดดอย มีเส้นทางเดินเท้าไปสู่จุดสูงสุดของยอดดอย 3 เส้นทาง ใกล้บ้างไกลบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางปกติที่ป่าเชิงดอย แต่อาจจะใช้ทางลงเส้นทางอื่นเพื่อไม่ให้ซ้ำซากจำเจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม ไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะยังไงก็ต้องมีเจ้าหน้าที่นำ

คนนำทาง-ลูกหาบ-รถ 4WD
คน นำทาง.... คนนำทางขึ้นไปเที่ยวคือเจ้าหน้าที่ของหน่วยพิทักษ์ป่า ค่าตอบแทน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน แต่นักท่องเที่ยวควรมีค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นสินน้ำใจ แบบว่าไม่น่าเกลียด
ลูกหาบ.... ถ้าคุณต้องการใช้บริการลูกหาบ ทางหน่วยฯ จะจัดหาให้ในจำนวนที่ท่านต้องการ ลูกหาบจะใช้ลูกหาบชาวมูเซอในหมู่บ้านที่หน่วยฯ ค่าจ้างค่าตอบแทนแล้วแต่ตกลง

การเดินทาง
จาก เชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ผ่านอำเภอฮอดสู่อำเภออมก๋อย แยกทางย่อยสู่บ้านยางเปียง บ้านมูเซอ จากนั้นเป็นทางลำลองที่ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ขึ้นไปยังไหล่เขาช่วงหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น เดินขึ้นดอย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกราว 3 ชั่วโมง

กำหนดการวันแรก
11:00 น. เดินทางถึง หน่วยฯ พิทักษ์ป่ามูเซอ เราจะย้ายสัมภาระขึ้นรถ 4WD พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่และลูกหาบแบกของส่วนกลาง เราจะใช้เวลาอยู่บนรถ 4WD ประมาณ 2-3 ชม. ถึงจุดเริ่มเดินแบกเป้กัน ก่อนเริ่มเดินทานมื้อเที่ยง กันก่อน เดินแบบสบายๆ ไม่ชันมาก ไม่ต้องรีบร้อนเดินกินลมชมวิว ถ่ายภาพกันไปพลาง
16:30 น. ถึงจุดกางเต็นท์ พักผ่อนตามสบาย
17:00 น. เดินขึ้นไปชม บรรยากาศพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตรงสันดอยม่อนจอง หลังจากนั้นกลับลงมาทานข้าวเย็น แล้วก็นอนพักผ่อนพรุ่งนี้ตื่นเช้า
ยอดหัวสิงห์ วันที่สอง
05:00 น. ตื่นเช้าเดินขึ้นไปบนสันดอยเพื่อชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกเดิน เล่นบนสันดอย เลาะแนวหน้าผาไปยังจุดสูงสุดคือยอดหัวสิงห์ ที่เห็นอยู่ไกลๆ สายๆ ค่อยกลับลงมาทานอาหารเช้ากัน
10.00 น. อำลาดอยม่อนจองเดินลงจากยอดเขามายังจุดนัดรถ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคเหนือ เขต1
โทร. 0-5324-8604, 0-5324-8607, 0-5324-1466

No comments: